Knowledge

ผักที่ควรกินหน้าหนาว

ผักที่ควรกินหน้าหนาว ช่วยเพิ่มความอบอุ่นให้ร่างกาย อากาศที่เปลี่ยนจากร้อนเป็นหนาว ส่งผลให้หลายคนคัดจมูก เป็นหวัด ไม่สบายกันยกใหญ่ ยิ่งในพื้นที่ที่ไม่ค่อยเจออากาศหนาว ๆ ภูมิต้านทานต่อความหนาวอาจมีเลเวลไม่สูงเท่าไร ฉะนั้นหากใครทนหนาวไม่ค่อยไหวในฤดูหนาวนี้ ต้องจัดผักและสมุนไพรแก้หนาวสักหน่อยแล้วล่ะค่ะ มาดูกันว่าผักที่ควรกินหน้าหนาว และสมุนไพรช่วยคลายหนาวจะมีอะไรบ้าง

1. กะเพรา – กะเพราเป็นผักสวนครัวกลิ่นหอม มีรสเผ็ดร้อนในตัว มีกลิ่นฉุนที่ดมแล้วโล่งไปทั้งจมูกและคอ อีกทั้งกะเพรายังเป็นผักที่หาง่าย ราคาถูก ทำเมนูกะเพราสิ้นคิดก็ดี ใส่ใบกะเพราลงในต้มยำ ต้มแซ่บก็หอมอร่อย ที่สำคัญใบกะเพรานี่แหละค่ะที่จะช่วยเพิ่มความอบอุ่นให้ร่างกายจากฤทธิ์ร้อนในตัวใบกะเพราเอง
2. ยอดมะขาม – ยอดมะขามมีรสเปรี้ยวที่พอเหมาะ ยิ่งหากนำมาต้มยำ ใส่พริก ใส่ข่าลงไปด้วย ก็จะมีความกล่อมกล่อมและมีประโยชน์ช่วยคลายหนาวได้มาก เนื่องจากรสเปรี้ยวที่พอเหมาะจะช่วยปรับสมดุลของธาตุทั้งสี่ในร่างกาย เพิ่มการไหลเวียนของเลือดช่วยให้รู้สึกอุ่นจากภายใน อีกทั้งยอดมะขามยังมีคุณสมบัติช่วยบรรเทาเสมหะในลำคอด้วยนะคะ และมีวิตามินซีสูงจึงช่วยเสริมภูมิต้านทานป้องกันโรคหวัดได้ ดังนั้นใครที่หนาวจนไม่ไหวจะเคลียร์ ลองกินเมนูแกงเลียงยอดมะขาม หรือต้มยำไก่ยอดมะขามก็ได้
3. ผักกระเจี๊ยบ – ผักกระเจี๊ยบหรือส่วนใบของกระเจี๊ยบแดงมีรสเปรี้ยวที่พอเหมาะต่อการปรับสมดุลธาตุทั้งสี่ในร่างกาย ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิตได้เช่นกัน จึงช่วยเพิ่มความอบอุ่นให้ร่างกายได้ เพราะเลือดลมไหลเวียนอย่างสะดวกมากขึ้นนั่นเอง โดยสมัยโบราณมักจะนำใบกระเจี๊ยบมาต้มจ้มน้ำพริกกินเป็นอาหาร หรือทำเมนูแกงส้มผักกระเจี๊ยบก็ได้รสชาติที่ดี ซดน้ำแกงแล้วคล่องคอ ช่วยขับเสมหะ ลดอาการไอได้อีกต่างหาก
4. มะระ – ผักพื้นบ้านอย่างมะระที่มีรสขมจัด ก็เป็นตำรับอาหารคลายหนาวมาตั้งแต่สมัยโบราณเช่นกันค่ะ เรื่องจากมะระมีทั้งรสขมและรสเปรี้ยว ช่วยให้ธาตุทั้งสี่ในร่างกายมีความสมดุล ยิ่งถ้าได้ซดต้มมะระร้อน ๆ ความอบอุ่นก็จะเพิ่มขึ้นทันทีในร่างกายเราเลยล่ะค่ะ
5. สะเดา – สะเดาก็เป็นผักที่มีรสขมผสมรสเปรี้ยว มีสรรพคุณช่วยเสริมธาตุในร่างกายให้แข็งแรง ช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันแข็งแกร่ง มีภูมิต้านทานต่ออากาศหนาวและโรคหน้าหนาวได้เป็นอย่างดี แถมสะเดายังเป็นผักที่ต้มกินกับน้ำปลาหวาน คู่กับปลาดุกย่าง เลอค่า แก้หนาวพร้อมความอร่อย

6. พริก – พริกมีความเผ็ดร้อนจากสารแคปไซซิน ซึ่งมีสรรพคุณช่วยเพิ่มการไหลเวียนของโลหิต และยังช่วยบรรเทาอาการหนาวชาบริเวณปลายมือ-ปลายเท้าได้ด้วยล่ะ ซึ่งวิธีการกินพริกแก้หนาวแนะนำให้กินเมนูที่มีพริกเป็นส่วนประกอบค่ะ เช่น ต้มยำ ลาบ ส้มตำ หรือต้มแซ่บ เป็นต้น
7. พริกไทย – พริกไทยจัดเป็นเครื่องเทศและสมุนไพรที่มีรสร้อน จึงช่วยเพิ่มความอบอุ่นให้ร่างกายได้อย่างง่ายดาย โดยสามารถกินทั้งพริกไทยป่น หรือพริกไทยสดก็ได้ โดยถ้าเป็นพริกไทยป่นควรใช้ประมาณครึ่งช้อนชาต่อหนึ่งมื้ออาหาร ผสมลงไปในอาหารแต่ละมื้อ จะช่วยให้ร่างกายมีภูมิต้านทานต่อความหนาว เกิดความอบอุ่นภายในร่างกายให้หายหนาวสั่น
8. ขิง – ขิงมีฤทธิ์ร้อน อีกทั้งสารเคอร์คูมินในขิงยังช่วยลดอาการอักเสบ เสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง แก้ไข้หวัด บรรเทาอาการไอ ช่วยขับลม แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อได้อีกด้วย และในช่วงอากาศหนาว ๆ แบบนี้ ก็สามารถนำขิงมารับประทานได้หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะนำไปชงดื่มเป็นชาร้อน ๆ จะเติมในอาหารที่รับประทาน ก็ล้วนแต่ช่วยเพิ่มความอบอุ่นให้ร่างกายได้ทั้งนั้นเลย
9. ข่า – ข่าเป็นสมุนไพรที่มีรสร้อนเหมือนขิง มีสรรพคุณช่วยแก้ไอ แก้หวัด ลดน้ำมูก แก้หอบหืด จึงเหมาะมากที่จะกินข่าในหน้าหนาว เพราะไม่เพียงแต่ช่วยคลายหนาวได้เท่านั้น แต่ข่ายังมีสรรพคุณบรรเทาอาการหวัด คัดจมูก น้ำมูกไหลได้อีกด้วย
10. กระชาย – กระชายเป็นสมุนไพรที่ให้รสเผ็ดร้อน เมื่อทานไปแล้วสามารถทำให้อุณหภูมิในร่างกายของเราสูงขึ้นได้ ดังนั้นถ้าต้องการให้ร่างกายอบอุ่นขึ้น จึงควรรับประทานอาหารที่ช่วยเพิ่มอุณหภูมิให้ร่างกาย ซึ่งกระชายถือเป็นทางเลือกที่ดีทีเดียว แถมยังทำได้หลายเมนูด้วยล่ะ
11. ยี่หร่า – เครื่องเทศที่มีฤทธิ์ร้อนอย่างยี่หร่า จะเข้าไปช่วยเสริมสร้างการทำงานของระบบเผาผลาญในร่างกาย ทำให้ร่างกายอบอุ่นขึ้น แต่ทั้งนี้ก็ควรระมัดระวังเรื่องความเผ็ดร้อน เพราะถ้าหากเติมเครื่องเทศเหล่านี้มากเกินไปจนเผ็ดมาก ๆ แทนที่จะช่วยให้ร่างกายอบอุ่น ก็อาจจะทำให้เกิดเหงื่อออกและสูญเสียความร้อนที่ระบายออกมาผ่านเหงื่อได้ค่ะ

นอกจากผักที่ควรกินหน้าหนาวทั้ง 11 ชนิดนี้แล้ว เราก็ควรทานผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง อย่างส้ม ฝรั่ง จะช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย และที่สำคัญก็คือ ในฤดูหนาวก็อยากให้เลี่ยงอาหารประเภทไขมันทุกชนิด เพราะอาหารมัน ๆ ทอด ๆ อาจเพิ่มโอกาสการเกิดเสมหะ หรือกระตุ้นการเกิดเสมหะในคนที่มีเสมหะ มีอาการหวัดอยู่แล้ว รวมไปถึงการดื่มแอลกอฮอล์แก้หนาวก็ไม่สมควรทำเช่นกันค่ะ เพราะการดื่มเหล้าแก้หนาวจะยิ่งเร่งให้ร่างกายสูญเสียความร้อน ส่วนที่ดื่มแล้วรู้สึกตัวอุ่นขึ้นนั้น เพราะหลอดเลือดฝอยที่อยู่ใต้ผิวหนังเกิดการขยายตัวอย่างหนัก เพื่อให้ความร้อนในร่างกายถูกระบายออกมาได้ง่ายขึ้น ซึ่งเมื่อความร้อนในร่างกายถูกระบายออกมามาก ๆ จะทำให้อุณหภูมิในร่างกายลดต่ำลงกว่าปกติ ยิ่งดื่มมาก ก็ยิ่งทำให้อุณหภูมิร่างกายลดต่ำลงมาก เมื่อเราหลับ ร่างกายที่สัมผัสกับอากาศเย็นเป็นเวลานานจึงเสี่ยงต่อการเสียชีวิตได้

ที่มา: กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทย กระทรวงสาธารณสุข, สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ

เพจ : Playglao
ลิ้งค์ : https://www.facebook.com/playglao/posts/397219881712403