วิตามินบี 5 หรือ กรดแพนโทเทนิก (Pantothenic Acid) คือ หนึ่งในวิตามินที่ร่างกายไม่ควรขาด เพราะมีประโยชน์ต่อร่างกายในหลายๆ ด้านด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น การช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์ เสริมสร้างภูมิคุ้มกันต้านทานโรค รักษาแผล ลดอาการเหน็บชาที่มือและเท้า บำรุงผิว บำรุงเส้นผม ป้องกันอาการอ่อนเพลีย รวมถึงยังช่วยลดความเครียดได้อีกด้วยค่ะ
1. ตับ เครื่องในสัตว์เป็นแหล่งของวิตามินบีหลายชนิด อย่างเช่น ตับที่ถือเป็นแหล่งของวิตามินบี 5 โดยตับ 100 กรัม อุดมไปด้วยวิตามินบี 5 หรือ กรดแพนโทเทนิก 6.67 มิลลิกรัม หรือ 133% DV (ร้อยละของปริมาณที่แนะนำต่อวัน) โดยเฉพาะตับไก่ ที่ถือได้ว่าอุดมไปด้วยสารอาหารสูงค่ะ
2. เห็ดหอม หรือ เห็ดชิตาเกะ (Shiitake Mushroom) 100 กรัม อุดมไปด้วยวิตามินบี 5 หรือ กรดแพนโทเทนิก 3.6 มิลลิกรัม หรือ 72% DV (ร้อยละของปริมาณที่แนะนำต่อวัน) เรียกได้ว่าเห็ดหอมเป็นเห็ดที่มีคุณค่าทางสารอาหารสูง กินแล้วดีต่อร่างกาย แถมยังอร่อยอีกด้วย และยิ่งเป็นเห็ดหอมแห้งก็จะยิ่งมีวิตามินบี 5 สูงค่ะ โดยเห็ดหอมแห้ง 100 กรัม จะมีวิตามินบี 5 ถึง 21.9 มิลลิกรัม หรือ 438% DV (ร้อยละของปริมาณที่แนะนำต่อวัน)
3. หอยเป๋าฮื้อ หอยเป๋าฮื้อ 100 กรัม อุดมไปด้วยวิตามินบี 5 หรือ กรดแพนโทเทนิก 2.87 มิลลิกรัม หรือ 57% DV (ร้อยละของปริมาณที่แนะนำต่อวัน) สำหรับใครที่อยากเติมวิตามินบี 5 ให้ร่างกาย หอยเป๋าฮื้อถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดีเลยล่ะค่ะ
4. เห็ดกระดุม เห็ดอีกหนึ่งชนิดอย่าง เห็ดกระดุม หรือ เห็ดแชมปิญอง (White Button Mushroom) 100 กรัม อุดมไปด้วยวิตามินบี 5 หรือ กรดแพนโทเทนิก 2.16 มิลลิกรัม หรือ 43% DV (ร้อยละของปริมาณที่แนะนำต่อวัน) สำหรับใครที่ชอบกินเห็ด นอกไปจากเห็ดหอมแล้ว เห็ดกระดุมก็มีวิตามินบี 5 กินแล้วดีต่อสุขภาพไม่แพ้กันค่ะ
5. ปลาแซลมอน ปลาแซลมอน 100 กรัม อุดมไปด้วยวิตามินบี 5 หรือ กรดแพนโทเทนิก 1.9 มิลลิกรัม หรือ 38% DV (ร้อยละของปริมาณที่แนะนำต่อวัน) โดยเฉพาะปลาแซลมอนที่จับตามธรรมชาติ ซึ่งถือได้ว่าอุดมไปด้วยสารอาหารมากกว่าแซลมอนเลี้ยง ใครอยากได้รับสารอาหารมากแนะนำปลาแซลมอนแอตแลนติกเลยค่ะ
เครดิตที่มา : women.trueid.net/